1. สำรวจพื้นที่
ขั้นตอนนี้คือก่อนการเริ่มดำเนินการ โดยปกติที่แล้วถ้าเป็นการปูกระเบื้องยางทับพื้นเดิมที่มีความเรียบอยู่แล้วจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าหากเป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาใหม่ ปัญหาที่พบบ่อยมากคือระดับพื้นเหมือนจะเรียบก็จริง แต่มีระดับต่างกันเล็กน้อย เช่น 2-3 มม. เป็นต้น แต่ถ้าหากปูไปแล้วโดยไม่ได้สนใจปัญหาเรื่องระดับพื้นจะทำให้เกิดปัญหาพื้นไม่เรียบร้อยตอนจบงานได้ เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเรียกช่างเข้ามาเพื่อประเมิณหน้างานก่อน
2. การปรับพื้น (ขึ้นอยู่กับหน้างาน)
ในขั้นตอนนี้อาจจะมไ่ต้องมีก็ได้ในบางครั้งถ้าหากพื้นเดิมมีระดับที่เรียบดีอยู่แล้ว หรือเมื่อเราเรียกช่างเข้าไปดูแล้วช่างเห็นหน้างานก็จะบอกได้ว่าจำเป็นมีการปรับพื้นก่อนการปูกระเบื้องยางไหม โดยส่วนมากถ้าเป็นการสร้างใหม่ผู้รับเหมางานโครงสร้างจะไม่ค่อยสามารถทำระดับพื้นให้เรียบมากพอจนสามารถปูกระเบื้องยางได้เลย ทำให้อาจจะต้องมีการปรับระดับพื้นก่อน โดยมีการปรับระดับ 2 วิธีคือ
           2.1 การฉาบบาง
สามารถทำได้โดยการใช้การฉาบสไลด์บางๆบริเวณที่ต่างระดับเข้าหากัน ซึ่งจะใช้วิธีนี้ได้ก็ต่อเมื่อพื้นมีความเรียบในระดับหนึ่งแล้ว ต้องการแก้ไขเป็นบางจุดเท่านั้น และวิธีนี้จะขึ้นอยู่กับฝีมือช่างพอสมควร เพราะเป็นการฉาบด้วยมือ ทำให้ต้องดูดีๆก่อนที่จะทำการฉาบบาง แต่ข้อดีคือมีราคาถูกกว่าการปรับแบบ self leveling เพราะการฉาบบางราคาอาจจะอยู่ในช่วงประมาณ 120-150 บาท/ตารางเมตร เท่านั้น
           2.2 การปรับพื้นแบบ self-leveling
การปรับพื้นแบบนี้คือการใช้ปูนสำหรับ self-leveling โดยเฉพาะมาผสมกับน้ำ แล้วเกลี่ยให้ทั่วพื้นที่ แล้วปล่อยให้ปูนเกิดการแข็งตัวขึ้นมาเอง โดยอาศัยหลักการของของเหลว จึงทำให้ระดับพื้นทั้งหมดเท่ากัน ทำให้เวลาปูพื้นกระเบื้องยางที่มีความบาง เช่น 2.0 หรือ 2.5 มม. แล้วรู้สึกเรียบเนียน ซึ่งวิธีการนี้จะแพงกว่าแบบแรกพอประมาณ โดยราคาจะขึ้นอยู่กับความหนาที่ต้องเพิ่มขึ้นมา แต่โดยส่วนมากแล้วราคาจะอยู่ที่ประมาณ 240-260 บาท/ตารางเมตร
3. ติดตั้งกระเบื้องยาง
เมื่อปรับพื้นเสร็จแล้วอาจจะต้องทิ้งไว้ให้แห้งสัก 1-2วัน เพื่อให้ความชื้นออกก่อน หลังจากนั้นจึงสามารถเข้าติดตั้งกระเบื้องยางได้ โดยแบบทากาวก็จะใช้กาวขาวทาไปกับพื้นและกระเบื้องยาง ใช้ค้อนยางทุบเพื่อให้แนบแน่น และปล่อยทิ้งไว้เพื่อให้เกิดการเซทตัว ส่วนแบบคลิ๊กล็อคนั้นก็จะเป็นการใช้ลิ้นข้างกระเบื้องยางต่อกันไปเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้นับว่าใช้เวลาเร็วมากๆเมื่อเปรียบเทียบกับการปูกระเบื้องพื้นประเภทอื่นๆ โดยห้องๆนึงอาจจะทำแค่วันเดียวเสร็จเลย
4. บัวและตัวจบขอบกระเบื้อง
เมื่อติดตั้งกระเบื้องยางเสร็จแล้ว บริเวณขอบรอบอาจจะมีช่องว่างระหว่างกระเบื้องยางและกำแพง ทำให้อาจจะมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกลงไป และเพื่อความสวยงามจึงนิยมที่จะใช้บัวบริเวณขอบกำแพงทั้งหมด ซึ่งมีทั้งแบบยาง สีต่างๆ และแบบพีวีซีลายไม้ หรืออาจจะเป็นอลูมิเนียม,สแตนเลส เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นให้กับอาคารก็ได้ ส่วนตัวจบจะใช้ระหว่างห้องของการเปลี่ยนวัสดุ หรือรอยต่อของการปูกระเบื้องยางจาก2ห้องมาชนกัน เช่น บริเวณประตูเป็นต้น